
บีทรูท ผักสีสดใสที่ช่วยร่างกายได้หลายระบบ
หากพูดถึงบีทรูท หลาย ๆ คนคงจะทำหน้างงปนกับความสงสัย ไม่ต้องทำหน้างงเวลาพูดถึงบีทรูท (Beetroot) เพราะจริงๆ แล้วบีทรูทรู้จักกันดีในชื่อว่าผักกาดฝรั่ง หรือผักกาดแดง พืชที่ขึ้นได้ในเมืองหนาวพร้อมเรื่องราวสารพัดประโยชน์ที่บีทรูทอยากจะนำเสนอ
บีทรูท พืชล้มลุกขนาดเล็กที่มีหัวไว้เก็บอาหาร มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่เมดิเตอร์เรเนียน เดินทางไกลจนสามารถเติบโตได้ที่ประเทศไทย ในพื้นที่เย็นสบายของภาคเหนือ มีสรรพคุณมากมายไม่ว่าจะนำมาทานสดๆ นำไปต้มหรือผสมลงไปในอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้นด้วยความหวานอมเปรี้ยวภายในบีทรูทนั่นเอง คราวนี้ ไม่ว่าจะผสมกับอาหารชนิดไหน ผัก ผลไม้ที่ปกติทานยาก กว่าจะกล้ำกลืนฝืนทนกินหมด แค่มีบีทรูทมาผสม รสชาติก็กลมกล่อมขึ้นง่ายๆ แถมยังมีสีสันสดใสแดงอมม่วงน่าทานอีกต่างหาก
ไม่เพียงแค่ช่วยในเรื่องรสชาติของอาหาร บีทรูทยังสามารถป้องกันระบบภายในของร่างกายจากความเสื่อมโทรมหลายอย่าง เพราะสีแดงในบีทรูทมาจากเบทานิน (Betanin) เป็นกรดอะมิโน ที่มีสรรพคุณยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกและมะเร็ง เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยชะลอไม่ให้เซลล์ต่าง ๆ เสื่อมสภาพ
และยังช่วยทำให้เลือดลมเดินดี บำรุงการไหลเวียนของโลหิตทำให้กระปรี้กระเปร่ามากขึ้น ใครที่มีปัญหาเรื่องประจำเดือนไม่ปกติสามารถนำไปรับประทานได้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ภายในบีทรูทมีทั้งเส้นใยอาหาร แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม วิตามินเอ วิตามินอี ฟอสฟอรัส แมงกานีส สังกะสี ซึ่งวิตามินเอในบีทรูทจะช่วยเรื่องการบำรุงสายตาให้ชัดเจนและไม่ทำงานหนักขึ้น ป้องกันโรคต้อกระจก ส่วนเส้นใยอาหารมากมายจะช่วยในเรื่องการขับถ่าย ไล่ของเสียให้ออกจากร่างกายให้หมด เท่านี้ ปัญหาสารพิษในร่างกายหรือปัญหาขับถ่ายไม่ออกก็หมดลง
อีกหนึ่งคุณสมบัติน่าทึ่งของบีทรูทก็คือ บีทรูทมีสรรพคุณช่วยลดอาการปวดบวมบริเวณร่างกาย บำรุงไต ถุงน้ำดี ไม่ให้ทำงานหนักจนเกินไป หากใครมีปัญหาเรื่องไต เนื้อตัวบวม เมื่อทานบีทรูทจะช่วยสร้างความสบายเนื้อสบายตัวได้มากขึ้น
นอกจากบีทรูทจะมีหลากหลายสายพันธุ์เกิดขึ้นในเมืองไทย ยังมีหลากหลายคุณประโยชน์ให้เลือกใช้ เลือกทาน ทำได้ตั้งแต่ปรับรสชาติอาหารไปจนถึงปรับระบบภายในร่างกายให้กลับมาเป็นปกติ เรียกได้ว่าคุณประโยชน์ครบเครื่องจริงๆ